IQ OPTION

IQ OPTION กับการบริหารจัดการเงินลงทุน

Money Management  เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เทรดเดอร์ทุกท่านประสบความสำเร็จ  ไม่มีเทรดเดอร์ท่านใดในโลกนี้  ประสบความสำเร็จได้โดยปราศจากการไม่ทำ  MoneyManagement

ดังนั้นผมจึงเขียนบทความเรื่องนี้ขึ้นมา  เพื่ออธิบายถึงความสำคัญของการทำ  Money Management  ไว้ให้เทรดเดอร์มือใหม่ทุกท่านได้ศึกษาทำความเข้าใจ  ในภาษาที่เข้าใจง่ายและไม่เป็นทางการมากนัก  ในแบบฉบับของผม  เรามาเริ่มกันเลยก็แล้วกัน

            Money Management  คือ  การบริหารจัดการเงินลงทุนให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด  โดยในแบบฉบับของผม  ผมจะแบ่งการบริหารจัดการเงินทุนโดยใช้ความเสียงเป็นหลัก  และจะสามารถแบ่งได้เป็น  3  รูปแบบ  คือ  1.ความเสี่ยงต่ำ  2.ความเสี่ยงปานกลาง  3.ความเสี่ยงสูง  โดยเทรดเดอร์แต่ละท่านจะต้องเลือกใช้วิธีการบริหารเงินให้สอดคล้องกับลักษณะและแผนการเทรดของตัวเอง  เพื่อให้การบริหารจัดการเงินทุนมีประสิทธิภาพสูงสุด  ( โดยหลักการบริหารเงินนี้  เทรดเดอร์จะต้องมีเปอเซ็นต์การเทรดชนะเกิน 60% ขึ้นไป )

            รูปแบบที่  1  การบริหารจัดการเงินโดยใช้ความเสี่ยงต่ำ  หลักการคือ  เราจะใช้เงินลงทุนในจำนวนที่เท่ากันทุกครั้งที่เข้าออเดอร์  เช่น  ไม้ที่ 1 เราลงเงินไป  10$  ไม้ต่อๆไป  เราก็จะลงเงิน  10$  เหมือนกันทุกครั้ง  จุดเด่นของการบริหารเงินแบบนี้คือ  ผลกำไรที่ได้จะค่อยๆ  เพิ่มขึ้น  อย่างช้าๆ

            รูปแบบที่  2  การบริหารจัดการเงินโดยใช้ความเสี่ยงปานกลาง  Winning Martingale  (แต่ต้องใช้ความแม่นยำสูง)  หลักการคือ  เราจะใช้ผลกำไรที่ได้มาในไม้ที่ชนะมาลงทุนเพิ่มในไม้ต่อไป  สำหรับมือใหม่ผมแนะนำให้ใช้สูตร  3 x 5  ไปก่อนนะครับ  โดยเราจะวางแผนการเทรดดังนี้  สมมุติว่าเรามีเงินลงทุนอยู่  100$  (นอกพอร์ต)  ให้เราเติมเงินเข้าไป  10$  แล้ววางแผนการเทรดดังนี้คือ  เราจะแบ่งการเทรดออกเป็น 10 วัน  โดยจะใช้เงินทุนในการเทรดวันละ 1$  และเมื่อเทรดชนะเราจะนำผลกำไรมาลงทุนเพิ่ม  และบวกทุนเริ่มต้นของเราเพื่อใช้เทรดในไม้ที่ถัดไป 

ตัวอย่างเช่น  ไม้แรก  เราจะใช้เงินลงทุน 1$  ถ้าเราชนะ  ไม้ที่สอง  เราจะใช้เงินในการเทรดที่  (1+0.85) =  1.85$  (ทุน 1$ + กำไรไม้แรก 0.85$ ที่อัตรากำไร 85%)  ถ้าไม้ที่สองเราชนะอีก  เราก็จะนำผลกำไรในไม้ที่สองมาเพิ่มเข้าไปเพื่อใช้เทรดในไม้ที่สาม  ซึ่งเป็นไม้สุดท้ายของการเทรดของเรา  ตามแผนการที่วางไว้  (สูตร 3 x 5 คือ เทรด 3 ไม้ ได้กำไร 5$)  ดังนั้นไม้ที่สาม  เราจะใช้เงินในการเทรดคือ  (1.85+1.57) = 3.42$  แล้วถ้าไม้ที่สามเราชนะอีก  เราจะได้เงินทั้งหมด  6.3$  ซึ่งเป็นเงินลงทุน 1$  และผลกำไร 5.3$  แต่ถ้าเราเทรดแพ้ตั้งแต่ไม้แรกหรือแพ้ไม้ใดไม้หนึ่ง  ให้เราหยุดเทรดทันที  และกลับมาวิเคราะห์สาเหตุของการแพ้ให้ได้  แล้วกลับมาแก้ไขและเทรดใหม่ในวันถัดไป  โดยใช้สูตรเดิม

สำหรับการบริหารเงินแบบนี้จะทำให้ผลกำไรของเราเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ  และรวดเร็วมากๆ  ในกรณีที่เราสามารถทำตามแผนและเป้าหมายตามสูตร  3 x 5 ได้  และเป้าหมายตามสูตรดังกล่าวนี้ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป  เพราะถ้าเราสามารถทำได้เพียง 2 ครั้ง ในจำนวน  10  ครั้ง  เราก็จะได้เงินลงทุนทั้งหมดของเรากลับคืนมาแล้ว  ที่เหลือก็จะเป็นกำไรอย่างเดียว  แต่ถ้าเราสามารถทำได้มากกว่า 1 ครั้งละก็  ผลกำไรจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมหาศาลเลยทีเดียว

รูปแบบที่  3  การบริหารจัดการเงินโดยใช้ความเสี่ยงสูง  Losing  Martingale  หลักการคือ  เมื่อไรที่เราเทรดเสีย  เราจะเพิ่มจำนวนเงินลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ  ตัวอย่างเช่น  ไม้แรกเราลงทุนไป 1$  แล้วเทรดเสีย  ไม้ที่สองเราก็จะเพิ่มจำนวนเงินลงทุนเป็น  2$  แล้วถ้าเทรดเสียอีก  ไม้ที่สามก็จะเพิ่มเงินลงทุนเป็น 5$  แล้วถ้ายังเทรดเสียอีก  ไม้ต่อๆไป  เราก็จะเพิ่มเงินลงทุนขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะชนะ  โดยจำนวนไม้ที่เราจะเทรดนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเทรดเดอร์แต่ละท่านจะมีเงินลงทุนและยอมรับความเสี่ยงได้เท่าไร  ซึ่งเทรดเดอร์แต่ละท่านจะยอมรับความเสียงได้ไม่เท่ากัน 

การบริหารเงินแบบนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีเงินลงทุนสูงและยอมรับความเสี่ยงได้สูงด้วย  เพราะถ้าหากเกิดความเสียหายขึ้นมา  การใช้การบริหารเงินแบบนี้  จะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าการบริหารเงินแบบอื่นอย่างมาก  (มือใหม่ไม่ควรใช้แบบนี้)  แต่ถ้าเทรดเดอร์ท่านใดชอบการบริหารเงินแบบนี้  ก็ควรวางแผนการเทรดให้ดี  โดยยึดหลักเปอร์เซ็นต์ในการเทรดชนะของเรามาเป็นตัวกำหนดจำนวนไม้ที่ใช้เทรด  เพื่อป้องการการสูญเสียอันใหญ่หลวงได้  เช่น  ถ้าเรามีเปอร์เซ็นต์การเทรดชนะอยู่ที่  60%  นั้นหมายความว่า  เราสามารถเทรดเสียได้  4  ครั้ง  ดังนั้น  เราก็จะได้สูตรการลงทุนเป็น  1, 2, 5, 12  (อัตราผลกำไรต้องไม่ต่ำกว่า 85%) ทั้งหมด 4 ไม้  ถ้าเสียติดต่อกัน 4 ครั้ง  ก็ถือว่าเรายอมแพ้ในวันนี้ไป  เราก็จะเสีย  20$  แต่ถ้าใครยอมรับความเสี่ยงและความเสียหายได้เพิ่มมากขึ้น  และมั่นใจว่า  เปอร์เซ็นต์การเทรดของตัวเองไม่ต่ำกว่า  60% แน่นอน  ก็สามารถเพิ่มจำนวนไม้ในการเทรดขึ้นอีก 1 ไม้  ให้เป็น  1, 2, 5, 12, 25  (อัตรากำไรต้องไม่ต่ำกว่า  85%)  ก็จะสามารถเอาชนะตลาดได้ด้วยการบริหารเงินแบบนี้ได้

สรุป  Money Management  เป็นปัจจัยสำคัญมากๆ  ในการทำกำไรในตลาดไบนารี่ออฟชั่น  เทรดเดอร์ทุกท่านจะต้องเลือกใช้และวางแผนการเทรดให้ดี  โดยคำนึงถึงลักษณะการเทรดของตัวเองเป็นสำคัญ  และต้องมีวินัยในการเทรดด้วย  เพราะถ้าเลือกใช้และวางแผนดีแล้ว  ไม่มีวินัย  ไม่ทำตามแผน  สุดท้ายก็ต้องพบกับความล้มเหลวอยู่ดี  ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย  ลองศึกษาและนำไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองให้ได้มากที่สุด  และจะทำให้ท่านประสบความสำเร็จได้ในอนาคตอันใกล้  ขอให้ทุกท่านโชคดี  ขอบคุณครับ…